ทำไมบางคนกินอาหารน้อยแต่ยังอ้วน?

เป็นคำถามที่หลายคนสงสัยเมื่อเห็นว่าตัวเองหรือคนใกล้ตัวทานอาหารในปริมาณไม่มาก แต่กลับมีน้ำหนักตัวที่เกินมาตรฐาน หรือรู้สึกว่าน้ำหนักลดลงได้ยากมาก สาเหตุของปัญหานี้ไม่ได้มีเพียงปริมาณอาหารเท่านั้น แต่ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับร่างกายและพฤติกรรมสุขภาพ ซึ่งสามารถแบ่งออกได้ดังนี้:

1. ระบบเผาผลาญในร่างกาย (Metabolism)

ระบบเผาผลาญคือกระบวนการที่ร่างกายเปลี่ยนอาหารที่เราทานให้กลายเป็นพลังงาน คนที่มีระบบเผาผลาญทำงานช้าจะใช้พลังงานน้อยกว่าคนทั่วไป ทำให้พลังงานส่วนเกินสะสมเป็นไขมันได้ง่าย สาเหตุที่ระบบเผาผลาญช้าอาจมาจาก:

  • อายุที่เพิ่มขึ้น: ระบบเผาผลาญจะช้าลงเมื่ออายุมากขึ้น
  • พันธุกรรม: บางคนอาจได้รับลักษณะทางพันธุกรรมที่ทำให้ระบบเผาผลาญช้ากว่าปกติ
  • การอดอาหารบ่อยเกินไป: การทานอาหารน้อยหรืออดอาหารต่อเนื่องอาจทำให้ร่างกายเข้าสู่โหมด “ประหยัดพลังงาน” และเผาผลาญน้อยลง

2. ฮอร์โมนและระบบต่อมไร้ท่อ (Hormonal Factors)

ความไม่สมดุลของฮอร์โมนบางชนิดสามารถส่งผลต่อการสะสมไขมันในร่างกาย เช่น:

  • ฮอร์โมนไทรอยด์ต่ำ (Hypothyroidism): ทำให้การเผาผลาญลดลง น้ำหนักเพิ่มง่าย
  • ฮอร์โมนอินซูลิน: การดื้อต่ออินซูลิน (Insulin Resistance) ทำให้ร่างกายเก็บไขมันมากขึ้น
  • ฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol): ความเครียดเรื้อรังสามารถเพิ่มระดับคอร์ติซอล ซึ่งกระตุ้นให้ร่างกายสะสมไขมัน โดยเฉพาะบริเวณหน้าท้อง

3. คุณภาพของอาหารที่ทาน (Diet Quality)

แม้จะทานในปริมาณน้อย แต่หากอาหารที่เลือกมีแคลอรีสูง เช่น อาหารแปรรูป น้ำตาล หรือไขมันทรานส์ ร่างกายจะยังสะสมพลังงานส่วนเกินได้ อาหารเหล่านี้มักทำให้:

  • ระดับน้ำตาลในเลือดไม่คงที่
  • กระตุ้นความอยากอาหารในมื้อต่อไป
  • เพิ่มการสะสมไขมันในร่างกาย

4. กิจกรรมในชีวิตประจำวัน (Physical Activity)

การเคลื่อนไหวร่างกายมีผลสำคัญต่อการควบคุมน้ำหนัก หากเรานั่งทำงานหรือนอนพักมากเกินไป ร่างกายจะใช้พลังงานน้อยลง แม้จะกินน้อยแต่ก็ยังอ้วนได้

5. พฤติกรรมการนอนและสุขภาพจิต

  • การนอนหลับไม่เพียงพอ: ทำให้ฮอร์โมนที่ควบคุมความหิว (Ghrelin) เพิ่มขึ้น และฮอร์โมนที่ทำให้อิ่ม (Leptin) ลดลง
  • ความเครียด: ทำให้ร่างกายหลั่งคอร์ติซอลมากขึ้น กระตุ้นให้เกิดความอยากอาหาร

6. ปัจจัยอื่น ๆ

  • ยาบางชนิด: เช่น ยาคุมกำเนิด ยาแก้ซึมเศร้า หรือยาลดความดันโลหิต สามารถเพิ่มน้ำหนักได้
  • สภาวะทางการแพทย์: เช่น โรค PCOS (Polycystic Ovary Syndrome) ที่ส่งผลต่อฮอร์โมนและการสะสมไขมัน

การจัดการปัญหา

หากคุณหรือคนรอบข้างกำลังเผชิญปัญหานี้ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและการดูแลสุขภาพโดยรวมสามารถช่วยได้ เช่น:

  1. ตรวจสุขภาพประจำปี: เพื่อประเมินฮอร์โมนและระบบเผาผลาญ
  2. เลือกอาหารที่มีคุณภาพ: เน้นโปรตีน ผัก และไขมันดี ลดการทานน้ำตาลและอาหารแปรรูป
  3. เพิ่มการเคลื่อนไหว: เช่น การเดิน การออกกำลังกายแบบต้านแรง (Resistance Training)